ยาปฏิชีวนะไม่มีผลต่อการรักษาโรคติดเชื้อไวรัส และยาต้านไวรัสไม่มีผลต่อการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อไวรัสที่พบบ่อยคือโรคหวัด หรือที่เรียกว่าไข้หวัดหรือหวัดธรรมดา ซึ่งมักจะหายได้เองโดยไม่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ และไม่ต้องรับประทานยาต้านไวรัส[1]
การรักษาโรคหวัดโดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาอาการ เช่น อาการปวด มีไข้ และอาการไอ การป่วยจากไวรัสและแบคทีเรียบางชนิดมีอาการคล้ายคลึงกัน เช่น โรคปอดติดเชื้อ (หรือที่มักเรียกว่า “ปอดบวม”)จากเชื้อไวรัส และโรคปอดติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรีย หรือ โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสและโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะหาสาเหตุแน่นอนด้วยตัวผู้ป่วยเอง ควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยตามข้อบ่งชี้
แพทย์จำแนกโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือจากเชื้อแบคทีเรียโดยดูจากอาการ การตรวจร่างกาย และการส่งตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือด สำหรับการทดสอบไข้หวัดใหญ่ โดยทั่วไปจะทำโดยการเก็บตัวอย่างจากลำคอหรือจมูก แล้วทดสอบหาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
ไวรัสดื้อยาเกิดจากการที่เชื้อไวรัสสามารถสามารถพัฒนาให้เกิดการดื้อยาต้านไวรัสได้ มักเกิดบ่อยในผู้ป่วยที่รับประทานยาต้านไวรัสไม่ถูกต้องหรือหยุดยาเอง การดื้อยาต้านไวรัสเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นในผู้ป่วยเอชไอวีเอดส์
สามารถดูวีดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ยาต้านไวรัส” ได้ที่
HEALTH CHECK TAPE.34 | การรักษาไข้หวัดใหญ่ | ช่อง one 31 (ผลิตโดย one31 วันที่ 09/20/2559)
หยุดยาต้านเอดส์ เสี่ยงเชื้อดื้อยา (ผลิตโดย one31 วันที่ 09/20/2559)
เรื่องที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบซี ตอน 1 (ผลิตโดย HiTAP Thai วันที่ 05/01/2561)
เอกสารอ้างอิง
1 HealthyMePA. (2018, October 25). Do I Need An Antibiotic? Know the Difference Between Viral and Bacterial Infections. Retrieved from https://www.healthymepa.com/2017/02/21/do-you-need-antibiotics/